จากคนที่...เคยผมร่วงทุกครั้งที่สระผม
คิดมาก...จนกลุ้มใจ
ห้ามพลาด! โปรโมชั่นเด็ดจำกัดเวลา
รายละเอียดเพิ่มเติม
สรรพคุณเพิ่มเติม คลิกเพื่ออ่านต่อ...
Collagen Tripeptide
เป็น คอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยกรด จนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ไฮโดรไลเซตคอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) ซึ่งขนาดยิ่งเล็กเท่าใดจะบ่งบอกถึง ประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น
คอลลาเจนชนิดนี้ มีลักษณะโครงสร้างคล้ายคอลลาเจนในผิวมนุษย์ จึงมีส่วนช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มคอลลาเจนในผิวหนังได้ดีและมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของคลอลาเจน
- ช่วยบำรุงผิว ลดรอยเหี่ยวย่น เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
- ช่วยลดรอยหมองคล้ำ ช่วยทำให้ฝ้า กระ จางลง อีกทั้งยังเติมเต็มร่องลึก ทำให้ผิวดูเต่งตึงและขาวกระจ่างใส
- บำรุงเส้นผม ทำให้รากผมแข็งแรง อีกทั้งยังส่งผลทำให้เส้นผมดูเงางาม ไม่แตกปลาย
- ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูกและเล็บ ให้แข็งแรง ช่วยป้องกันกระดูกพรุน
- ช่วยปรับสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงข้อต่างๆของร่างกายให้เหมาะสม
หญ้าหางม้า Horsetail Grass
หญ้าหางม้า (Horsetail Grass) มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อ และสมานแผล หญ้าหางม้านิยมใช้เป็นยาสมุนไพรมาอย่างยาวนาน งานศึกษาวิจัยในปัจจุบันพบว่าสมุนไพรหญ้าหางม้ามีคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ มากมาย เช่นเป็นแหล่งสะสมซิลิกาช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง เสริมสร้างเนื้อกระดูก คอลลาเจน และเนื้อเยื่ออื่นๆ ของร่างกายเสริมสร้างโครงสร้างของกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) ฟื้นฟูปอดที่ถูกทำลายจากเชื้อวัณโรค(Tuberculosis) และโรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) ช่วยให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหรือฉีกขาดง่าย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากการทำลายของอนุมูลอิสระ ลดการเกิดนิ่วในไต และนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (kidney and bladder stones)
ประโยชน์ของหญ้าหางม้า
- ลดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
- ลดการฉี่ลดที่นอนในเด็ก
- ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
- ลดภาวะที่มีการสะสมของน้ำหรือของเหลวในช่องระหว่างเซลล์ หรืออาการบวมน้ำ (edema) ต้านการอักเสบ
L-Arginine
L-Arginine เป็นกรดอะมิโน (amino acid) ชนิดหนึ่งและในทางโภชนาการจัดเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็น (essential amino acid) ร่างกายมนุษย์ยังสังเคราะห์เองไม่ได้ ต้องบริโภคจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ปลาทะเล โยเกิร์ต ถั่ว จมูกข้าว โดย L-Arginine มีหน้าที่หลักในการแบ่งเซลล์ (เพิ่มปริมาณเซลล์) ของสิ่งมีชีวิต ช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
สำหรับทารกและเด็กที่กำลังเจริญเติบโต L-Arginine จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิต ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) เพื่อช่วยในเรื่องการขยายตัวของหลอดเลือด รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในการคงความเป็นหนุ่มเป็นสาว ช่วยชะลอความแก่
สามารถเปลี่ยนเป็นแก๊ส Nitric oxide (NO) ได้ภายในร่างกาย ซึ่งแก๊สนี้นั้นสำคัญต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคองคชาติไม่แข็งตัวเนื่องจากจะช่วยทำให้เส้นเลือดผ่อนคลายและทำให้มีเลือดที่มีออกซิเจนสูงนั้นไหลเวียนได้มากขึ้น การที่มีเลือดไหลเวียนไปยังองคชาตินั้นสำคัญต่อการแข็งตัวขององคชาติ
ประโยชน์ของ L-Arginine
- เสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์
L-Arginine จะเข้าไปกระตุ้นต่อมใต้สมองให้หลั่งฮอร์โมน และจะทำให้กระบวนต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และซ่อมแซมฟื้นฟูส่วนต่างๆได้ดีขึ้น
- ช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศชาย
L-Arginine สามารถเปลี่ยนเป็นแก๊ส Nitricoxide (NO) ได้ภายในร่างกาย ซึ่งแก๊สนี้นั้นสำคัญต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคองคชาติไม่แข็งตัวเนื่องจากจะช่วยทำให้เส้นเลือดผ่อนคลายและทำให้มีเลือดที่มีออกซิเจนสูงนั้นไหลเวียนได้มากขึ้น การที่มีเลือดไหลเวียนไปยังองคชาตินั้นสำคัญต่อการแข็งตัวขององคชาติ นอกจากนี้ L-Arginine ยังช่วยเพิ่มจำนวนอสุจิ และอาจช่วยรักษาภาวะมีบุตรยากในเพศชายอีกด้วย
- ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน
โดยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทมัส ซึ่งเป็นศูนย์รวมเม็ดเลือดขาวทีเซลล์ (T-lymphocytes) ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับโรคติดเชื้อ โดยทีเซลล์จะถูกปล่อยออกมาเมื่อร่างกายต้องการ จากการศึกษาพบว่า L-Arginine ช่วยเพิ่มจำนวนของทีเซลล์ และอาจช่วยเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดขาวที่ทำงานด้านการต่อต้านมะเร็งด้วย
- ช่วยการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกาย
L-Arginine จะทำให้เกิดไนตริกออกไซด์ในหลอดเลือด ซึ่งไนตริกออกไซด์ จะทำหน้าที่ทำความสะอาดหลอดเลือด ลดคราบพลัค และลดไขมันที่เกาะหรืออุดตันในผนังหลอดเลือด
การออกฤทธิ์
L-Arginine จะทำให้เกิดไนตริกออกไซด์ในหลอดเลือด ซึ่งไนตริกออกไซด์ทำหน้าที่ทำความสะอาดหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดไม่ตีบตัน ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศได้ดีขึ้น
แมงกานีส (Manganese)
แมงกานีส (Manganese) จะพบมากในส่วนของโครงกระดูก ตับ ตับอ่อน หัวใจและต่อมพิทูอิทารี่ แมงกานีสจะช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมโดยประโยชน์หลักๆของแร่ธาตุชนิดนี้ก็คือ จะไปช่วยในเรื่องของการตอบสนองของกล้ามเนื้อการยืดตัวหดตัวดี ช่วยทำให้ไม่ปวดหลังและทำให้ร่างกายสดชื่นมีความจำที่ดีและอื่นๆอีกมากมาย แมงกานีส มีความจำเป็นต่อการสังเคราะห์เนื้อเยื่อเกี่ยวพันในกระดูกและกระดูกอ่อน แมงกานีสจะมีส่วนที่คล้ายกับแมกนีเซียม คือ สารอาหารชนิดนี้จะมีการสูญเสียระหว่างกระบวนการดัดแปลงทางอาหาร เช่น เมื่อธัญพืชถูกเปลี่ยนเป็นแป้งขัดขาว
ประโยชน์ของแมงกานีส (Manganese)
- แมงกานีสช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์ คือช่วยในการเผาผลาญโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ช่วยลดการเกิดไขมันสะสมในร่างกาย และช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่จำเป็นต่อกระบวนการนำไบโอติน วิตามินบี1 และวิตามินซี มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ซึ่งแมงกานีสมีความจำเป็นต่อโครงสร้างของกระดูก
- แมงกานีสช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต คือช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและการสืบพันธุ์ให้ทำงานตามปกติและช่วยขับฮอร์โมนเพศสำหรับวัยเจริญพันธุ์
- ช่วยเรื่องการทำงานของสมองระบบประสาทและระบบกล้ามเนื้อ โดยจะไปควบคุมสุขภาพและการทำงานของสมองระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อให้มีประสิทธิการสั่งงานและมีความสัมพันธ์กัน และมีส่วนช่วยในกระบวนการตอบสนองของกล้ามเนื้อ
Zinc Amino Acid Chelate
Zinc (ธาตุสังกะสี) เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ตามปกติสังกะสี เป็นแร่ธาตุที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยแต่ไม่สามารถขาดได้ พบมากในผม เล็บ อัณฑะ กระดูก กล้ามเนื้อและ ตับ เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 300 ชนิด เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้ปกติ นอกจากนี้ยัง ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้างเล็บ ผมและผิวหนัง
อาหารจากธรรมชาติ ที่มีธาตุสังกะสี ได้แก่ หอยนางรม เนื้อสัตว์ อาหารทะเล จมูกถั่วเหลือง ไข่แดง ธัญพืชและถั่วต่าง ๆ
รูปแบบของสังกะสี ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี และไม่เหลือปริมาณตกค้างจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับระบบทางเดินอาหาร รวมถึงรักษาไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่ร่างกายควรจะได้รับ คือสังกะสีในรูปแบบ “ซิงค์ อะมิโน แอซิด คีเลต (Zinc Amino Acid Chelate)”
อะมิโน แอซิด คีเลต (Amino Acid Chelate) คือ รูปแบบของการจับกันระหว่างโลหะ (แร่ธาตุ) กับกรดอะมิโน เพื่อทำหน้าที่ในการนำโลหะเข้าสู่ร่างกายได้ดี ทำให้มีการดูดซึมอย่างรวดเร็วพร้อมกับได้รับปริมาณแร่ธาตุที่ครบถ้วนและไม่เหลือการตกค้างของโลหะ
อาการบ่งบอกว่าขาด Zinc
- เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- บาดแผลหายช้า
- สูญเสียการรับรู้กลิ่นและรส
- ผิวหนังอักเสบ เป็นสิว
- เล็บเป็นจุดขาว
ประโยชน์ของ Zinc
- ช่วยป้องกัน และลดการเกิดสิว
ช่วยการรักษาสมดุลของการผลิตฮอร์โมน อีกทั้งยังช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบริเวณต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังให้เป็นปกติ นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า ด้วยคุณสมบัติของการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและภูมิคุ้มกันของธาตุสังกะสีจึงสามารถต่อต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ช่วยในการเปลี่ยนแปลงน้ำตาลในกระแสเลือดมาเป็นพลังงานได้มากขึ้นด้วย
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ช่วยกระตุ้นการทำงานของ T – Lymphocyte ซึ่ง T-Lymphocyte เป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
- มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา
ช่วยให้เซลล์จับกับวิตามิน A ได้ดีขึ้นและเซลล์สามารถนำวิตามิน A ไปใช้ได้ดีขึ้น รวมถึงเซลล์บริเวณประสาท ซึ่งวิตามิน A เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงสายตา
- ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
เพราะสังกะสีจะช่วยสร้างกรดนิวคลีอิก ซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นในการสร้างเซลล์ใหม่ จึงช่วยให้แผลผ่าตัด รวมถึงแผลที่อักเสบเรื้อรังมานานให้หายเร็วขึ้น
- ช่วยกำจัดสารพิษในตับ
สังกะสี เป็นส่วนหนึ่งของน้ำย่อยแอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส ( Alcohol Dehydrogenase ) ซึ่งช่วยในการขจัดสารพิษในตับอย่างแอลกอฮอล์ให้หมดไป
- ช่วยเพิ่มสรรถภาพทางเพศของเพศชาย
สังกะสี ช่วยให้ต่อมลุกหมากทำงานได้เป็นปกติ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต ของอวัยวะสืบพันธุ์ ช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นกับต่อมลูกหมาก
การออกฤทธิ์ในด้านการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย
แร่ธาตุสังกะสี ( Zinc ) จะถูกดูดซึมได้ในลำไส้เล็กตอนต้น และจะถูกเก็บเอาไว้มากที่สุดใน ตับ ตับอ่อน ไต กระดูกและเนื้อเยื่อ ที่เหลืออาจถูกเก็บไว้ในต่อมลูกหมากและตัวอสุจิ ผิวหนัง ผม และเล็บ
หากร่างกายได้รับแคลเซียมฟอสฟอรัส วิตามินดี สารไฟเตตและใยอาหารในปริมาณมากจะมีผลให้การดูดซึมของสังกะสีถูกขัดขวาง ดังนั้นหากบริโภคอาหารที่มีสารเหล่านี้สูง ก็ควรจะบริโภคอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีเข้าไปในปริมาณที่เท่าๆ กันด้วย
การทำงานของสังกะสี กับวิตามินตัวอื่น
หากคุณเพิ่มซิงค์ในอาหาร ร่างกายของคุณจะต้องการวิตามินเอเพิ่มขึ้น เนื่องจากซิงค์ทำงานร่วมกับวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัสได้ดีที่สุด
หากคุณกำลังรับประทานทั้งซิงค์ และเหล็กเป็นผลิตภัณฑ์เสริม แนะนำให้ทานแยกเวลากัน เนื่องจากมันอาจจะขัดขวางการทำงานกันเองได้
ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็ก คือ สารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการผลิตเฮโมโกลบิน ไมโอโกลบิน และเอนไซม์บางชนิด รวมทั้งยังเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินซี โคบอลต์ แมงกานีส และทองแดง ซึ่งเป็นสารที่มีความสำคัญต่อการดูดซึมของธาตุเหล็ก แต่ทั้งนี้วิตามินอีและสังกะสีที่มีอยู่ในร่างกายในปริมาณมากนั้นจะคอยขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็กเสียเอง ส่วนธาตุเหล็กที่เรารับประทานเข้าไปก็มักจะเกิดการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้เพียงประมาณ 8% เท่านั้น
แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับธาตุเหล็กจากการรับประทานเข้าไปอย่างเพียงพอ โดยแหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงก็คือ ปลา เป็ด ไก่ ตับ ม้าม อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไข่แดง และอาหารเช้าซีเรียล ส่วนอาหารที่จะช่วยเสริมธาตุเหล็กในร่างกายได้เช่นกันคือ ผักใบเขียวเข้มทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ใบตำลึง ผักโขม รวมทั้งถั่วดำ ข้าวโอ๊ต และถั่วแดง เป็นต้น
ประโยชน์ของ เหล็ก
- มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายเติบโตและมีความแข็งแรงเป็นปกติ
- มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง
- ป้องกันอาการโรคโลหิตจาง
- ช่วยกำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้
- เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ตลอดจนทำให้ร่างกายห่างไกลจากอาการเจ็บป่วย
- ช่วยให้เซลล์สมองของคนเราเจริญเติบโตได้ดี
- ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
- มีส่วนช่วยในการเพิ่มความงามให้แก่ผิว เพราะธาตุเหล็กจะช่วยทำให้ผิวพรรณของคนเราแลดูเรียบเนียน
- มีส่วนสำคัญต่อไขกระดูกในร่างกาย
ไบโอติน
ไบโอตินคือวิตามินชนิดหนึ่งที่ละลายน้ำได้ รู้จักกันในชื่ออื่น ๆ คือวิตามินเอช (Vitamin H) หรือวิตามินบี 7 (Vitamin B7) ร่างกายต้องการไบโอตินเพื่อช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้ว ร่างกายของคนเราจะได้รับไบโอตินจากการรับประทานในแต่ละวันอย่างเพียงพอต่อความต้องการอยู่แล้ว อาหารที่มีปริมาณไบโอตินสูง ได้แก่ ไข่แดง เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง หรือวอลนัท ถั่วเหลือง หรือพืชตระกูลถั่วชนิดอื่น ๆ ธัญพืช กล้วย ผักชนิดต่าง ๆ เช่น กะหล่ำดอก เห็ด เป็นต้น
ประโยชน์ของไบโอติน
- รักษาและป้องกันภาวะขาดไบโอติน ภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคขาดสารอาหาร การมีน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว การได้รับอาหารผ่านทางสายยางเป็นเวลานาน ๆ เป็นต้น ผู้ป่วยที่ขาดไบโอตินอาจมีอาการบ่งชี้ คือ ผมบางลง สีผมเปลี่ยนไป มีผื่นแดงขึ้นรอบดวงตา จมูก และปาก รวมทั้งอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้า เซื่องซึม มีอาการประสาทหลอน หรือเป็นเหน็บบริเวณแขนและขาได้ การรับประทานอาหารเสริมสามารถช่วยทดแทนไบโอตินส่วนที่ขาดไปได้ อย่างไรก็ตาม ปกติคนเราได้รับวิตามินชนิดนี้จากการรับประทานอาหารอย่างเพียงพออยู่แล้ว อีกทั้งร่างกายสามารถนำไบโอตินที่ใช้ไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ ดังนั้น ภาวะขาดไบโอตินจึงเกิดขึ้นได้น้อย
- มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผม ผิวหนัง และเล็บ เส้นผม ผิวหนัง และเล็บของคนเรานั้นประกอบขึ้นจากโปรตีนเคราตินเป็นหลัก ไบโอตินมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างของเคราตินให้แข็งแรง การขาดไบโอตินอาจส่งผลกระทบต่อเคราตินจนทำให้สุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บอ่อนแอลงได้
- ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญ ไบโอตินเป็นวิตามินอีกหนึ่งชนิดที่มีส่วนสำคัญในการทำงานของระบบเผาผลาญ โดยจะทำหน้าที่เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส เพื่อใช้เป็นพลังงาน ทั้งยังมีส่วนช่วยให้กรดอะมิโนทำงานร่วมกับระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ